แบคทีเรียกินเนื้อ เชื้อที่ทำให้ตายได้

แบคทีเรียกินเนื้อ 01

 

จากข่าวหลายๆแหล่งคงได้เห็นกันบ้างแล้วสำหรับเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อกลายเป็นเชื้อที่สามารถคร่าชีวิตผู้คนไปหลายรายแล้วในสหรัฐอเมริกาจากการลงเล่นน้ำทะเลทั้งที่มีบาดแผลบนผิวหนัง แถมด้วยยังมีโรคประจำตัวอย่าง โรคตับหรือมะเร็ง และรวมถึงชาวเกาหลีใต้ที่ทานอาหารทะเลดิบอย่างหอยนางรมเข้าไป และคนไทยที่ลุยโคลนก็ติดเชื้อกันแล้วโดยที่ไม่รู้ว่าในน้ำทะเล ในโคลนและอาหารทะเลดิบนั้นมีเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งปนเปื้อนอยู่จึงเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ฉะนั้น เรามาทำความรู้จักกับเชื้อแบคทีเรียตัวนี้กันเถอะจะได้ระวังตัวและป้องกันตัวเองได้อย่างถูกวิธี

 

สงสัยจัง แบคทีเรียกินเนื้อมาได้ยังไง?

     Vibrio Vulnificus หรือ เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ เป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในตระกูล Vibrionaceae เหมือนกับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอหิวาตกโรค และโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ โดยเชื้อ Vibrio Vulnificus จะอาศัยอยู่ในน้ำทะเลหรือน้ำกร่อยที่อุณหภูมิอุ่น ฝั่งประเทศตะวันตก เม็กซิโก อเมริกาจะพบเชื้อนี้ในหน้าร้อน แต่ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆในเขตร้อนสามารถพบเชื้อได้ตลอดทั้งปี ซึ่งสามารถติดเชื้อนี้ได้จากการทานอาหารทะเลดิบที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น หอยนางรม หรือมีบาดแผลตามร่างกายแล้วไปสัมผัสกับเชื้อในแหล่งน้ำต่างๆทั้งทะเล และโคลน รวมถึงการแช่ออนเซ็น

 

เสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย

     คนสามารถติดเชื้อแบคทีเรียนี้ได้จากการว่ายน้ำ เล่นน้ำในทะเล จับสัตว์น้ำเปลือกแข็งในน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ โดยยิ่งมีบาดแผลจะยิ่งติดเชื้อได้ง่ายกว่า ผู้ที่ลงโคลนเป็นประจำ หรือแม้แต่การแช่ออนเซ็นก็อาจมีแมลงกัดต่อยจนติดเชื้อได้เช่นกัน และผู้ที่ทานอาหารทะเลดิบ เช่น หอยนางรม หรือหอยต่างๆก็สามารถติดเชื้อได้ เนื่องจากอาหารทะเลอาจมีเชื้อปนเปื้อนได้ด้วยเช่นกัน รวมถึงผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันไม่ปกติ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ป่วยที่เป็นโรคตับเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือดมากกว่าคนปกติถึง 80 % และโรคมะเร็ง เบาหวาน โรคเลือด HIV ไตวายเรื้อรัง หากได้รับเชื้อแบคทีเรียนี้จะมีการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วยส่งผลให้มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่สำหรับผู้ที่ร่างกายแข็งแรงเมื่อได้รับเชื้อจะทำให้มีอาการในระบบทางเดินอาหาร

 

แบคทีเรียกินเนื้อกับโรค 3 ลักษณะ

  1. การติดเชื้อที่บาดแผล เชื้อสามารถลุกลามไปอย่างรวดเร็วจนทำให้เนื้อเยื่ออักเสบ ผิวหนังมีอาการบวม แดง ปวด และกลายเป็นตุ่มน้ำที่มีเลือดปน จนเกิดอาการเนื้อเน่าตายของเนื้อเยื่ออ่อนใต้ผิวหนัง การติดเชื้อที่บาดแผล พบประมาณ 45 % และมีอัตราการตายถึง 50 %

  2. เลือดเป็นพิษ เชื้อสามารถเข้าสู่กระแสเลือดโดยผ่านทางเยื่อบุทางเดินอาหารจากการทานอาหารทะเลดิบ  หรือผ่านทางบาดแผลจากการติดเชื้อที่บาดแผลนั้นเอง ทำให้มีอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย ความดันต่ำ อาจมีอาการอุจจาระร่วง อาเจียน อาการเลือดเป็นพิษนี้พบประมาณ 43 % มีอัตราการตายสูงถึง 75 %

  3. กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ จากการทานอาหารทะเลดิบ ทำให้อุจจาระร่วง อาเจียน พบประมาณ 12 % อัตราการตายน้อยมาก

 

อาการเป็นยังไง

     ในผู้ที่ร่างกายแข็งแรงหากได้รับเชื้อจะเริ่มมีอาการหลังทานอาหารทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อประมาณ 16 ชั่วโมงจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว ส่วนผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ปกติหรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ รวมถึงมีบาดแผลแล้วได้รับเชื้อมาจะมีอาการเป็นไข้เฉียบพลัน หนาวสั่น คลื่นไส้ ความดันเลือดตก ผิวหนังมีตุ่มน้ำขึ้นโดยตุ่มน้ำจะมีเลือดปน ขาจะบวมใหญ่จนเป็นสีแดงแล้วค่อยๆกลายเป็นสีม่วงคล้ำในวันต่อๆมา พร้อมกับมีอาการปวด และถ้าเป็นโรคตับ โรคมะเร็ง เบาหวานอยู่มักจะติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้มีอาการรุนแรงและถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

ป้องกันไว้ก่อน

  • ผู้ที่มีบาดแผลที่ผิวหนังไม่ควรไปสัมผัสกับน้ำทะเล โคลนหรือน้ำกร่อยโดยเฉพาะน้ำทะเลอุ่น

  • ถ้าเป็นโรคตับ มะเร็งหรือเบาหวานแล้วมีบาดแผลไม่ควรสัมผัสน้ำทะเล โคลนหรือถ้าสัมผัสน้ำทะเลและโคลนควรรีบทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำเปล่า เช็ดให้แห้งแล้วใส่ยาฆ่าเชื้อที่บาดแผลทันทีและรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดอีกที

  • เลี่ยงการทานอาหารทะเลดิบโดยเฉพาะหอยนางรม

  • ผู้ที่เป็นโรคตับ หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรทานอาหารทะเลสุก เพราะจะได้ไม่มีเชื้อ Vibrio Vulnificus ปนเปื้อน

  • ระวังเรื่องอาหารที่จะทานดิบอย่าง ผักสด แตงกวาไม่ให้ไปสัมผัสกับอาหารทะเลดิบหรืออาหารทะเลที่กำลังรอทำให้สุก เพื่อไม่ให้เชื้อเข้าไปปนเปื้อนในผัก

 

 

☘️ มุมสาระน่ารู้ TardHealth info

ความรู้เพื่อสุขภาพ รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์ By TaradHealth

ข้อมูลเพิ่มเติม»

เรื่องที่คุณอาจสนใจ