งาม้อนพืชวิเศษ

                   งาม้อนหรืองาขี้ม้อน เป็นพืชสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นอาหาร และยาในประเทศทางแถบเอเชียมานานแล้ว สำหรับประเทศไทย   “งาขี้ม้อน” มีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูง กรดนี้ช่วยควบคุมระดับโคเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็ง ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด ช่วยแก้อาการไม่สบายต่าง ๆ ที่เกิดจากระบบประสาท เช่น นอนไม่หลับ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เป็นเหน็บชา ปวดเส้นตามตัว แขน ขา เบื่ออาหาร ท้องผูก เมื่อยสายตา ควรหันมารบประทานงาเป็นประจำ และยังช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือด ที่สำคัญงายังเป็นอาหารต้านมะเร็งอีกด้วย นักวิทยาศาสตร์หลายท่านกล่าวว่าสาร “เซซามอล” ที่มีอยู่ในงานั้นป้องกันมะเร็งได้ และยังทำให้ร่างกายแก่ช้าลงอีกด้วย นำเมล็ดมาตำประคบแก้อาการข้อพลิก (โครงการพิพิธภัณฑ์ชาวเขาออนไลน์, 2550)

ภาวะโลหิตจาง ภัยที่ควรรู้

          ภาวะโลหิตจาง (Anemia) เป็นโรคทางโลหิตวิทยาที่พบบ่อยที่สุด โดยเกิดจากการมีจำนวนเม็ดโลหิตแดงน้อยหรือมีการทำงานที่ผิดปกติ สีของเม็ดเลือดแดงมาจากฮีโมโกลบิล ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีธาตุเหล็กเป็นตัวนำออกซิเจน           สำหรับการเกิดของโรคโลหิตจางก็เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการขาดอาหาร การเผาผลาญบกพร่อง ยาบางชนิด ได้รับสารพิษ เสียโลหิตเป็นจำนวนมาก เป็นมะเร็งและโรคอื่นอีกหลายชนิด    ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ผิวซีด หอบเหนื่อย หัวใจเต้นแรง แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนคือการตรวจเลือด (CBC) แล้วใครบ้างละเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการเกิดโรค

ถั่งเช่า คืออะไร?

ตังถั่งแห่เช่า หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า “ถั่งเช่า” แปลเป็นไทยว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” ที่เรียกว่า “หญ้าหนอน” ก็เพราะว่า ยาสมุนไพรชนิดนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นตัวหนอน เป็นตัวหนอนของผีเสื้อชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus Oberthiir และบนตัวหนอน มีเห็ดชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Saec. เจริญเติบโตอยู่ เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้ในฤดูหนาวเหมือนหนอนแต่ฤดูร้อนกลับงอกเป็นต้นหญ้าได้ จึงเรียกว่า “หญ้าหนอน” หญ้าหนอน  ที่ภาษาจีนจึงเรียกว่า “Dong Chong Xia Cao” (冬虫夏草) ภาษาจีนแต้จิ๋วที่เรียกกันอยู่สาหรับคนจีนในประเทศไทยเรียกว่า ตังถั่งเช่า แปลว่า สมุนไพร “หนาวเป็นหนอน

ทำอย่างไรไม่ให้ท้องผูก

อาการท้องผูก  มีหลายสาเหตุ เช่น   ดื่มน้ำไม่เพียงพอ กินอาหารน้อย กินเส้นใยอาหาร (Fiber) น้อย ขาดการออกกำลังกาย ถึงเวลาปวดถ่ายไม่ยอมเข้าห้องน้ำ หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดกรด ยาแก้แพ้ ยาขับปัสสาวะ ยารักษาความดันสูงบางชนิด ยาบำรุงเลือดธาตุเหล็ก ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดบางชนิด ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียม และที่พบได้บ่อยมาก คือใช้ยาถ่ายบ่อยเกินไป มีวิธีป้องกันดังนี้ 1.ดื่มน้ำให้ได้วันละประมาณ 1-2 ลิตร ถ้าไม่มีโรคหัวใจ โรคของเส้นเลือด โรคไตอยู่ บางคนอาจท้องผูกจากการดื่มนมหรือรับประทานแคลเซียมในปริมาณมาก 2.เข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกปวดถ่าย ไม่ควรรอหรือทนอั้นไว้เพราะยิ่งรอไว้นาน ยิ่งเพิ่มอาการท้องผูก และควรฝึกขับถ่ายเป็นเวลา 3.ออกกำลังกายน้อย หรือใช้เวลานอนบนเตียงนาน ๆ เช่น คนป่วยนอนโรงพยาบาลนาน ๆ ทำให้ท้องผูก จึงควรขยับเขยื้อนร่างกาย ออกกำลังกายเสมอ ๆ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดถ้ามี

5 ประโยชน์จากน้ำมันรำข้าว&จมูกข้าว

ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ระบบประสาท : ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ และช่วยให้ความจำดีขึ้นและยังช่วยเพิ่มการทำงานของระบบสื่อกระแสประสาท ระบบกระดูกและข้อ : ช่วยลดอาการอักเสบของข้อ และช่วยเพิ่มการหล่อลื่นภายในข้อให้ดีขึ้นจึงทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่างๆ ดีขึ้นอีกทั้งยังสามารถช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมออกไปจากร่างกายจึงลดความ เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย ระบบภูมิคุ้มกันและการต่อต้านอนุมูลอิสระ : ทำให้ร่าง กายเสื่อมสภาพช้าลง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเสื่อมต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น ระบบผิวพรรณ : ทำให้ผิวพรรณมีความอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับ และยืดหยุ่นตัวดี ระบบหลอดเลือดและการไหลเวียนเลือด : ช่วยลดปริมาณของคอเลสเตอรอลและลดปริมาณของ แอลดีแอล  ซึ่งเป็นไขมันชนิดไม่ดีและช่วยให้ระบบการไหลเวียน

9 อาหารพ้นภัยคอเลสเตอรอลสูง

โรคไขมันในเลือดสูง หรือคอเลสเตอรอลสูง เป็นภาวะที่สามารถพบเจอได้ ถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไปเป็นเวลานาน ซึ่งการรักษาโดยทั่วไปก็คือการทานยาเพื่อควบคุมระดับไขมัน ดังนั้นสาเหตุของการเป็นโรคนี้คือการรับประทานอาหาร หากเรารับประทานอาหารที่ดังต่อปนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงจากโรคนี้ได้ อาหาร 9 อย่างที่ควรรับประทาน 1. ผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่มีไขมัน อย่างเช่น นมพร่องหรือขาดมันเนย โยเกิร์ตไม่มีไขมัน เป็นต้น 2. เนื้อปลา และเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน 3. ถั่วชนิดต่าง ๆ 4. ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เป็นต้น 5. ผักสดชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะกระเทียมและข้าวโพด 6. ผลไม้ไม่มีรสหวานจัด หรือสุกมากเกินไป 7. หลีกเลี่ยงการใช้ไขมันจากสัตว์ และหันมาใช้ไขมันจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว ในการประกอบอาหารแทน แต่ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันปาล์ม และน้ำมันมะพร้าว เพราะอาจจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีสูงขึ้น และส่งผลให้หลอดเลือดตีบแข็งได้ 8. ไขมันจากปลาทะเล อย่างเช่นน้ำมันตับปลา ปลาแซลมอน เพราะไขมันจากเนื้อปลานั้นจะช่วยทำให้ไตรกลีเซอไรด์น้อยลง และลดการจับตัวของเกล็ดเลือดอีกด้วย […]

9วิธีหนีโรคสมองเสื่อม

โรคสมองเสื่อม ความจำเสื่อม หรือแม้แต่โรคอัลไซเมอร์นั้น ไม่ได้เป็นโรคของคนแก่ เราสามารถเป็นโรคนี้ได้ตั้งแต่อายุ 30 หรือ 40 ปี แต่เราจะไม่เห็นอาการของโรค แต่พออายุย่างเข้า 60 ปีหรือมากกว่านั้น จะพบอาการของโรคจึงชัดเจนขึ้น ดังนั้น ถ้าเราจัดการกับสาเหตุตั้งแต่เนิ่นๆจะป้องกันไม่ให้โรคลุกลามได้ไว 1.ดื่มน้ำให้เยอะๆ ในแต่ละวัน น้ำในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้สมองทำงานได้ดี ภาวะขาดน้ำจะทำให้สมองเกิดความบกพร่องได้ 2.นอนให้เพียงพอ วันละ 7-8 ชั่วโมง เวลาที่เราหลับสมองจะจัดระบบความจำของเรา 3.ออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกายสม่ำเสมอจะทำให้สมองส่วนที่เกี่ยวกับการใช้ความคิด การตัดสินใจ และสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำ สามารถทำงานได้ดี 4.กินอาหารเช้าทุกวัน เนื่องจากสมองต้องการระดับน้ำตาลที่สม่ำเสมอ การกินอาหารเช้าพวกแป้ง ผัก และผลไม้เยอะๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสม่ำเสมอ

เปิดตัว เภสัชโภชนภัณฑ์ ผลงานนักวิจัยไทย วว.

วันพุธ ที่ 1 กรกฎาคม 2558  นายยงวุฒิ  เสาวพฤกษ์ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เป็นประธานในการแถลงข่าว เปิดตัว เภสัชโภชนภัณฑ์ เอ็มดีเมท(MDmate) พร้อมด้วย ดร. กฤติยา  ทิสยากร นักวิจัยฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ผู้คิดค้นและวิจัยเภสัชโภชนภัณฑ์แก้ปัญหาภาวะสมองเสื่อม  และ นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ประธานบริษัท อาณาจักรสุขภาพ จำกัด ผู้ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต เภสัชโภชนภัณฑ์เอ็มดีเมท(MDmate) จากสถาบันฯการแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นการขยายผล ของงานวิจัยที่ทางสถาบันฯ ได้คิดค้นและวิจัยออกมาเป็นเภสัชโภชนภัณฑ์เอ็มดีเมท(MDmate) แก้ภาวะสมองเสื่อมเป็นผลสำเร็จ และเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทย สร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

อาหารเสริมสำหรับเด็ก จำเป็นหรือไม่

นี่อาจเป็นคำถามที่พ่อแม่ ผู้ปกครองหลายท่านยังเกิดความสงสัย เพราะด้วยอุปนิสัยการทานอาหารของเด็กๆแต่ละคนที่แตกต่างกัน บ้างก็ปฏิเสธที่จะทานผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์หรือแม้แต่ข้าว ซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนเพียงพอต่อการเจริญเติบโต การทานอาหารเสริมจะเข้ามาช่วยเสริมสร้างร่างกายได้มากน้อยเพียงใด เรื่องนี้ อ.กัญชลี ทิมาภรณ์ หัวหน้าแผนกโภชนาการ รพ.พระรามเก้า ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ที่ต้องให้ลูกรับประทานอาหารเสริม ? การรับประทานอาหารเสริมช่วยเสริมสร้างร่างกายได้ในระดับหนึ่ง คือ ชดเชยสารอาหารบางอย่างที่ร่างกายขาดไป แต่อย่าลืมว่าอาหารเสริมก็คืออาหารเสริม ไม่สามารถทานแทนอาหารหลักได้ ดังนั้นหากให้ลูกรับประทานอาหารเสริม ก็ควรให้ทานควบคู่ไปกับอาหารหลักด้วยเช่นกัน หากเด็กสามารถรับประทานอาหารได้ครบ 5 หมู่ ในทุกๆมื้อ

เหตุผล…ที่ 8 ใน 10 ของแพทย์ แนะนำให้ใช้ “น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น”

น้ำมันมะพร้าว (coconut oil) คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อผลมะพร้าว ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าว ที่ได้รับความสนใจในขณะนี้ คือ virgin coconut oil ซึ่งหมายถึงน้ำมันมะพร้าวที่ใช้วิธีการสกัดแยกเนื้อผลมะพร้าว โดยไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนสูงและไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปทางเคมี จึงเรียกว่า “น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น” ผลการสำรวจ ได้สรุปเป็นเปอร์เซ็นต์จากแบบสอบถามโดยแพทย์ในโรงพยาบาล ซึ่งได้แนะนำว่า องค์ประกอบหลักของน้ำมันะพร้าวนั้นเป็นกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) ที่เปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มการเผาพลาญได้ดีซึ่งมีกรดลอริคสูง ซึ่งเปลี่ยนเป็นโมโนลอริน (Monolaurin) ไปกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาว จึงช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน และน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันอิ่มตัวสูงถึง 92% แม้จะถูกความร้อนสูงก็ไม่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free Radical) และไขมันทรานส์ (Free Radical) และไขมันทรานส์ (Trans Fat) อีกครั้ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นวิตามินอี กลุ่มสารฟีนอล (phenolic compounds) และกลุ่มสารไฟโตสเตอรอล (phytosterol) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย นอกจากนี้ในด้านประโยชน์ คือ ช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือLDL และเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี HDL […]

1 9 10 11 12