ระวัง! โรคไข้หูดับ กับ หมูดิบ กินแล้วผิดต่อชีวิต

ระวัง! โรคไข้หูดับ กับ หมูดิบ กินแล้วผิดต่อชีวิต ช่วงนี้หลายคนคงจะเห็นข่าวคนกิน “หมูดิบ” แล้วต้องตัดขา หรือเข้าโรงพยาบาลกันมากมายเพียงเพราะความชอบรวมถึงการไม่รู้ และไม่ตระหนักว่ากินแล้วจะมีผลเสียร้ายแรงขนาดไหน และยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาลแล้วด้วยนั้นตามบ้านเรือนต่างๆก็ต้องมีงานสังสรรค์ โดยมักจะทำอาหารกินกันเองง่ายๆอย่างอาหารอีสานพวกน้ำตก ลาบ หลู้ หมูกระทะ จิ้มจุ่มกินกัน ซึ่งในความชื่นมื่นกันนั้นกลับมีภัยร้ายแฝงอยู่หากเราไม่ทำอาหารให้สะอาดและสุก โดยเฉพาะหมู อู๊ดๆที่กินดิบๆแล้วเสี่ยงเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “ไข้หูดับ” โรคไข้ดูดับมาจากไหนกัน? ไข้หูดับ หรือโรคสเตรปโตค็อกคัส ซูอิส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus suis ที่มักพบในหมูเกือบทุกตัวก็ว่าได้ โดยเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้อยู่ในระบบทางเดินหายใจ ในต่อมทอนซิล อยู่ในเลือด และอาจพบในช่องคลอดของ หมูด้วย ซึ่งทำให้สามารถแพร่เชื้อไปยังลูกหมู หรือหมูตัวอื่นๆได้ ซึ่งโรคไข้หูดับสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ผ่านทางบาดแผล รอยถลอก เยื่อบุตาโดยการสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ ทั้งเนื้อหมู เครื่องในหมู หรือแม้แต่เลือดของหมูด้วย และการติดต่ออีกทางคือ การกินเนื้อหมูดิบ หรือหมูที่สุกๆดิบๆ อย่างพวกลาบ หลู้หมูดิบ แหนมหมู สเต็ก หมูกระทะ ปิ้งย่าง จิ้มจุ่ม ชาบูที่เรามักจะใช้ตะเกียบคีบทั้งหมูดิบเพื่อนำไปย่าง และคีบหมูสุกเพื่อนำเข้าปากต่อก็เป็นอีกทางที่เชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกายเราได้เช่นกัน รู้ได้ยังไง? ว่าเป็นไข้หูดับแล้ว […]

‘วัณโรค’ โรคร้ายที่ควรป้องกันก่อนคร่าชีวิตเรา

‘วัณโรค’ โรคร้ายที่ควรป้องกันก่อนคร่าชีวิตเรา      เป็นที่รู้กันดีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากับข่าวของวัณโรคประเภทหนึ่งที่สามารถคร่าชีวิตชีวิตหนึ่งไปอย่างกระทันหันอย่างไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จนกระทั่งสามารถหาต้นเหตุได้ว่าเกิดจากโรคอะไร นั่นก็คือ วัณโรคโพรงจมูก นั่นเอง ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ได้ใหม่สำหรับคนไทยแต่เพียงเป็นวัณโรคที่เกิดขึ้นกับอวัยวะในร่างกายที่ต่างจากที่เราคุ้นเคยกันเท่านั้น โดยเราลองมาดูกันว่าเชื้อวัณโรคมาจากไหน และจะร้ายแรงขนาดไหน รวมทั้งวิธีรักษา ป้องกันเมื่อเกิดขึ้นกับร่างกายของเราเอง   วัณโรคมาจากไหน ?         วัณโรค (Tuberculosis หรือ TB) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงชนิดหนึ่งที่เล็กมาก คือ Mycobacterium tuberculosis ซึ่งถ้าแบคทีเรียเกาะติดกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย และเพิ่มจำนวนแล้วร่างกายจะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้จึงกลายเป็นวัณโรค รวมถึงเมื่อได้รับเชื้อแล้วจะไม่ค่อยแสดงอาการ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียตัวนี้โตช้า ซึ่งเชื้อแบคทีเรียนี้สามารถทนอยู่ในอากาศ และสิ่งแวดล้อมได้นาน โดยจะติดต่อกันผ่านทางอากาศที่เราหายใจ ผ่านทางละอองเสมหะจากการจาม ไอ หรือการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยวัณโรคติดต่อกันเป็นเวลานานๆ    มารู้จักกับ วัณโรคโพรงจมูกกัน         “ วัณโรคหลังโพรงจมูก ” ก็คือ โรควัณโรคที่เราคุ้นเคยกันนั่นแหละ แต่วัณโรคประเภทนี้จะพบเชื้อวัณโรคบริเวณหลังโพรงจมูก โดยโพรงจมูกเป็นจุดที่มีเส้นเลือดอยู่มาก ซึ่งเชื้อวัณโรคนี้หากไปก่อให้เกิดพยาธิสภาพบริเวณเยื่อบุโพรงจมูก และหากทำให้เกิดพยาธิสภาพต่อหลอดเลือดบริเวณข้างเคียงจะทำให้หลอดเลือดเกิดการฉีกขาด หรืออาจกล่าวได้ว่าถ้าโรคนี้เป็นตรงบริเวณไหนเนื้อตรงนั้นจะเปื่อยยุ่ย […]

รู้ไว้สักนิด! เพื่อเตรียมรับมือ “ไข้หวัดใหญ่”

    รู้ไว้สักนิด! เพื่อเตรียมรับมือ “ไข้หวัดใหญ่” ยังไม่ทันจะถึงฤดูฝนก็ได้ยินมาว่าไข้หวัดใหญ่กลับมาให้เราต้องเตรียมตัวรับมือกันซะแล้ว เพราะเมื่อไม่นานมานี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนให้ประชาชนทั่วโลกเตรียมรับมือกับไข้หวัดใหญ่ที่คาดว่าจะมีผู้ที่ติดเชื้อกว่า พันล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่คนทุกเพศ ทุกวัยสามารถติดเชื้อได้ง่ายและอาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆหรือมีอาการแทรกซ้อนจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ถ้าไม่รู้วิธีรักษาและป้องกัน สาเหตุการเกิดไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งเชื้อไข้หวัดใหญ่มีอยู่ 3 ชนิด เรียกว่า ชนิด A, B และ C แต่ละชนิดยังแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยๆไปอีกมากมาย แต่สามารถแยกไข้หวัดใหญ่ในคนได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ “ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล” และ “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่” ซึ่งเป็นต้นเหตุของการระบาดไปทั่วโลก โดยเชื้อไวรัสนี้จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วย โดยปะปนหรือแพร่กระจายในอากาศ ซึ่งติดต่อด้วยการไอ จามหรือการสัมผัสสิ่งของ เครื่องใช้ที่มีเชื้อโรค สำหรับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิด H1N1 ที่กลายพันธุ์จากเชื้อไวรัสตัวเดิมทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกันและติดเชื้อในวงกว้าง อาการที่เป็นจะรุนแรงกว่า หรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในกลุ่มเสี่ยงอย่างคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ส่วนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบกันมานานแล้ว แต่เชื้อโรคมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมได้ตลอดเวลา ทำให้คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไปแล้วสามารถป่วยได้อีก อาการจะไม่รุนแรง เนื่องจากเรามีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง อาการของไข้หวัดใหญ่      ช่วงของระยะฟักตัว […]

5 วิธีง่ายๆ ถนอมสายตาจากแสงสีฟ้า

      การจ้องหน้าจอมือถือ แท็บเล็ต หรือจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ รู้ใช่ไหมคะว่าพฤติกรรมเหล่านี้ทำร้ายสายตาของเรามากเลยทีเดียว ทั้งทำให้แสบตา ตาแห้ง ปวดกระบอกตา และบางรายอาจมีอาการมองเห็นภาพเบลอด้วยแต่ครั้นจะให้เลิกแชท เลิกใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ไปเลยก็คงยาก ถ้าอย่างนั้นมีทางเดียวคือต้องรู้จักถนอมสายตาจากแสงสีฟ้าอันตรายเหล่านี้ ด้วยวิธีป้องกันแสงสีฟ้าง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากนี่เลย  1. ปรับแสงสว่างความคมชัดของร่างกาย  ภายใต้ระดับความสว่างที่ 300-500 ลักซ์ หรือสังเกตได้ง่าย ๆ จากการที่เราไม่ต้องหรี่ตาเวลามองหน้าจอ รวมทั้งพยายามลดแสงสว่างบริเวณรอบ ๆ เช่น ปิดไฟดวงที่สะท้อนลงบนหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 2. ทำความสะอาดหน้าจอ โดยเฉพาะฝุ่นละอองและรอยเปื้อนบนจอทั้งหลาย หากทำความสะอาดหน้าจอได้หมดจดจะช่วยลดทอนการเปล่งแสงสีฟ้าได้ด้วยนะ 3. กลอกตาซ้ายวนขาวต่อเนื่อง ข้างละ 10 วินาที เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่เสมอ วิธีนี้จะช่วยลดความอ่อนล้าของสายตาได้มาก 4. ห่างจากหน้าจอคอม อย่างน้อยประมาณ 40 เซนติเมตร หรือประมาณช่วงแขนเอื้อม และปรับให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15-20 องศา เพราะหากระยะห่างระหว่างตากับจอภาพไม่สัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดตาได้ง่าย 5. ละสายตาจากหน้าจอคอม  ไม่ควรจ้องหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดนานเกิน 2 ชั่วโมงต่อครั้ง เพราะหากเล่นนานเกินกว่า 2 ชั่วโมง อาจทำให้สายตาอ่อนล้าและปวดเกร็งได้   […]

วัณโรค โรคติดต่อที่ไม่ควรไว้ใจ

  สาเหตุ  เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ผ่านการไอ จาม เสมหะจากคนสู่คนเข้าสู่ร่างกาย อาการ   ระยะแรกมักไม่แสดงอาการจากนั้นจะเริ่มไอเรื้อรังนาน 2 สัปดาห์ มีไข้ต่ำๆช่วงบ่าย เหงื่อออกเวลากลางคืน น้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว เบื่ออาหาร ไอมีเสมหะปนเลือด ป้องกัน การดูแลผู้ป่วย รักษาให้หายขาดเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ควรใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้งที่ไอ จาม แยกข้าวของเครื่องใช้ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย รักษา วัณโรครักษาได้ด้วยการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ให้ครบ 6 – 8 เดือน ตามที่แพทย์กำหนด   สามารถสั่งซื้อหรือสอบข้อมูลเกี่ยวผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย เพื่อสุขภาพ ได้ที่ www.taradhealth.com โทร 062-595-3399 , 085-688-7890 ID Line: @taradhealth Facebook: TaradHealth ฝนมาแล้ว หลบโรคภัยกันเถอะ! 26/05/256531/05/2022adminข่าววิชาการ, ข่าวสุขภาพ, ความรู้ด้านสุขภาพ, รู้ทันโรค, เนื้อหาทั้งหมดป้องกันโรค, ฝนตก, เชื้อโรค, โรคภัย, ไข้หวัด ☘️ […]