รู้ไว้สักนิด! เพื่อเตรียมรับมือ “ไข้หวัดใหญ่”
ยังไม่ทันจะถึงฤดูฝนก็ได้ยินมาว่าไข้หวัดใหญ่กลับมาให้เราต้องเตรียมตัวรับมือกันซะแล้ว เพราะเมื่อไม่นานมานี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนให้ประชาชนทั่วโลกเตรียมรับมือกับไข้หวัดใหญ่ที่คาดว่าจะมีผู้ที่ติดเชื้อกว่า พันล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่คนทุกเพศ ทุกวัยสามารถติดเชื้อได้ง่ายและอาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆหรือมีอาการแทรกซ้อนจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ถ้าไม่รู้วิธีรักษาและป้องกัน
สาเหตุการเกิดไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งเชื้อไข้หวัดใหญ่มีอยู่ 3 ชนิด เรียกว่า ชนิด A, B และ C แต่ละชนิดยังแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยๆไปอีกมากมาย แต่สามารถแยกไข้หวัดใหญ่ในคนได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ “ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล” และ “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่” ซึ่งเป็นต้นเหตุของการระบาดไปทั่วโลก โดยเชื้อไวรัสนี้จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วย โดยปะปนหรือแพร่กระจายในอากาศ ซึ่งติดต่อด้วยการไอ จามหรือการสัมผัสสิ่งของ เครื่องใช้ที่มีเชื้อโรค
สำหรับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิด H1N1 ที่กลายพันธุ์จากเชื้อไวรัสตัวเดิมทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกันและติดเชื้อในวงกว้าง อาการที่เป็นจะรุนแรงกว่า หรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในกลุ่มเสี่ยงอย่างคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ส่วนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบกันมานานแล้ว แต่เชื้อโรคมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมได้ตลอดเวลา ทำให้คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไปแล้วสามารถป่วยได้อีก อาการจะไม่รุนแรง เนื่องจากเรามีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง
อาการของไข้หวัดใหญ่
-
ช่วงของระยะฟักตัว 1-4 วัน เป็นช่วงที่ไข้หวัดใหญ่ไม่มีโรคแทรกซ้อน แต่จะมีอาการอ่อนเพลียอย่างเฉียบพลัน หายใจหอบ เบื่ออาหาร ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดบริเวณรอบดวงตา ตาแดง ปวดแขนปวดขา มีอาการเจ็บคอ คอแดง มีน้ำมูกหรือเสมหะ ตัวร้อน มีไข้สูงถึง 39 - 40 องศาเซลเซียส และมักมีอาการอาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย โดยจะเป็นไข้ประมาณ 2 - 4 วัน แล้วไข้จะค่อยๆลดลง แต่อาการคัดจมูกและแสบคอยังคงมีอยู่ ซึ่งอาจจะหายได้ในช่วงเวลาประมาณ 1- 2 สัปดาห์
-
ช่วงที่ไข้หวัดใหญ่มีอาการรุนแรงและมักเกิดโรคแทรกซ้อน จะพบการอักเสบของเยื้อหุ้มหัวใจ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอก หรือบางครั้งมีอาการหัวใจวาย อาจพบอาการเยื้อหุ้มสมองหรือสมองอักเสบ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยปวดศีรษะอย่างมาก และมีอาการซึมลงตามมา บางรายอาจมีอาการระบบทางเดินหายใจผิดปกติ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม โดยผู้ป่วยจะมีอาการแน่นหน้าอก หรือเจ็บหน้าอกรุนแรงและเหนื่อยง่ายร่วมด้วย