ทำอย่างไรไม่ให้ท้องผูก

อาการท้องผูก  มีหลายสาเหตุ เช่น   ดื่มน้ำไม่เพียงพอ กินอาหารน้อย กินเส้นใยอาหาร (Fiber) น้อย ขาดการออกกำลังกาย ถึงเวลาปวดถ่ายไม่ยอมเข้าห้องน้ำ หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดกรด ยาแก้แพ้ ยาขับปัสสาวะ ยารักษาความดันสูงบางชนิด ยาบำรุงเลือดธาตุเหล็ก ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดบางชนิด ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียม และที่พบได้บ่อยมาก คือใช้ยาถ่ายบ่อยเกินไป มีวิธีป้องกันดังนี้ 1.ดื่มน้ำให้ได้วันละประมาณ 1-2 ลิตร ถ้าไม่มีโรคหัวใจ โรคของเส้นเลือด โรคไตอยู่ บางคนอาจท้องผูกจากการดื่มนมหรือรับประทานแคลเซียมในปริมาณมาก 2.เข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกปวดถ่าย ไม่ควรรอหรือทนอั้นไว้เพราะยิ่งรอไว้นาน ยิ่งเพิ่มอาการท้องผูก และควรฝึกขับถ่ายเป็นเวลา 3.ออกกำลังกายน้อย หรือใช้เวลานอนบนเตียงนาน ๆ เช่น คนป่วยนอนโรงพยาบาลนาน ๆ ทำให้ท้องผูก จึงควรขยับเขยื้อนร่างกาย ออกกำลังกายเสมอ ๆ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดถ้ามี

อาหารเสริมสำหรับเด็ก จำเป็นหรือไม่

นี่อาจเป็นคำถามที่พ่อแม่ ผู้ปกครองหลายท่านยังเกิดความสงสัย เพราะด้วยอุปนิสัยการทานอาหารของเด็กๆแต่ละคนที่แตกต่างกัน บ้างก็ปฏิเสธที่จะทานผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์หรือแม้แต่ข้าว ซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนเพียงพอต่อการเจริญเติบโต การทานอาหารเสริมจะเข้ามาช่วยเสริมสร้างร่างกายได้มากน้อยเพียงใด เรื่องนี้ อ.กัญชลี ทิมาภรณ์ หัวหน้าแผนกโภชนาการ รพ.พระรามเก้า ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ที่ต้องให้ลูกรับประทานอาหารเสริม ? การรับประทานอาหารเสริมช่วยเสริมสร้างร่างกายได้ในระดับหนึ่ง คือ ชดเชยสารอาหารบางอย่างที่ร่างกายขาดไป แต่อย่าลืมว่าอาหารเสริมก็คืออาหารเสริม ไม่สามารถทานแทนอาหารหลักได้ ดังนั้นหากให้ลูกรับประทานอาหารเสริม ก็ควรให้ทานควบคู่ไปกับอาหารหลักด้วยเช่นกัน หากเด็กสามารถรับประทานอาหารได้ครบ 5 หมู่ ในทุกๆมื้อ