อาการปวดไมเกรนมักจะเกิดที่ศีรษะข้างเดียว ปวดย้ายข้าง หรืออาจปวดทั้งสองข้างเลยก็ได้ และหนึ่งในสาเหตุ ของการเกิดโรคนี้ก็คือ สิ่งกระตุ้นในกลุ่มของอาหารและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เหล่านี้
สารไทรามีน
สารนี้เป็นองค์ประกอบทางธรรมชาติในอาหารประเภทที่ผ่านการหมักบ่ม รมควัน เนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธียืดอายุ ของหมักดอง อาหารที่มีส่วนผสมของยีสต์ และเบียร์ ฯลฯ ซึ่งผู้ที่มีความไวต่อสารไทรามีน เมื่อกินอาหารเหล่านี้เข้าไปก็จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงได้
สารแอสปาร์แตม
เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลปกติ 180-200 เท่า แม้จะยังไม่มีผลการวิจัยรับรองอย่างเป็นทางการว่า แอสปาร์แตมเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนอย่างชัดเจน แต่ก็พบว่าในผู้ป่วยบางรายมีอาการปวดศีรษะ หลังกินสารตัวนี้เข้าไป
ผงชูรส
ผงชูรสเป็นสารปรุงแต่งรสชาติอาหารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสิ่งที่ทำให้ปวดศีรษะอาจมาจากการกระตุ้นให้มีการหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิด หรือไปกระตุ้นให้เซลล์ของผนังหลอดเลือดหลั่งสารไนตริกออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ หลอดเลือดเกิดการขยายตัว จนนำไปสู่อาการปวดศีรษะในที่สุด
ไนเตรท และไนไตรท์
เป็นสารกันบูดที่ใช้ในการถนอมอาหารประเภทหมักดองหรือรมควัน กลไกการกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ อาจเกิดจากสารชนิดนี้กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารไนตริกออกไซด์ หรือสารที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัวชนิดอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะนั่นเอง
กาเฟอีน
กาเฟอีนจะมีผลต่อระบบประสาท
ส่วนกลาง ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป โดยปกติจะพบกาเฟอีนในเครื่องดื่ม 115 มก. ซึ่งกาเฟอีนจำนวน 50-300 มก. มีผลทำให้ร่างกายตื่นตัว หากมากว่า 300 มก. จะทำให้เกิดอาการวิตกกังวล กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ หงุดหงิด ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะ แนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ อาหาร หรือยาที่มีส่วนประกอบของกาเฟอีน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พบว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้บ่อย โดยอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะภายใน 3 ชม. หลังจากดื่ม หรือเกิดตามมาในช่วงท้าย สาเหตุเกิดจากเครื่องดื่ม เช่น ไวน์ นั้นมีส่วนประกอบของไทรามีน ซัลไฟด์ ฮีสตามีน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งสารเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
อาหารหลายชนิดที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ ดังนั้นการสังเกตประเภทของอาหารและเครื่องดื่มที่เรากินเข้าไปก็จะช่วยลดอาการปวดให้น้อยลงได้ เช่นกันนะคะ